มีการรายงานข่าวที่ว่าสมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นประจำปีหน้าอย่าง iPhone 15 Pro นั้น อาจจะมีการใช้งานกล้อง และ Face ID ใต้หน้าจอ (22 มี.ค. 2565) ล่าสุดนี้ได้มีการรายงานถึงข้อมูลของสมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นประจำปีหน้า (2023/2566) – iPhone 15 Pro ที่ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อาจจะมีการใช้งานในส่วนของกล้อง และเซนเซอร์ Face ID ที่อยู่ใต้หน้าจอ (under-display (UD))
โดยเป็นการรายงานจากทางสำนักข่าวเกาลีใต้ – TheElec,
ซึ่งได้กล่าวว่า Samsung Display และ OTI Lumionics กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากล้องใต้หน้าจอรุ่นใหม่ที่ซึ่งจะมีการเปิดตัวภายในสมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold5 ที่จะมาในปีหน้า และจะถูกใช้งานภายในตัวรุ่น 15 Pro (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ภายในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2023 หรือก็คือปลายปีหน้า
ก่อนหน้านี้นั้นก็มีการรายงานข่าวมาอย่างต่อเนื่องของ การร่วมมือพัฒนา organic cathode patterning material (CPM) รุ่นใหม่ ระหว่าง Samsung Display และ OTI Lumionics ที่เรียกให้ง่ายที่สุดก็การพัฒนาหน้าจอที่มีความโปร่งมากพอที่จะให้ Apple สามารถใช้งานเซนเซอร์ FaceID ใต้หน้าจอได้
ซึ่งก็จะส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานเซนเซอร์ IR ในการปลดล็อคหน้าจอได้โดยไม่มีรอยบาก (Notch) หรือช่องบนหน้าจอ ทั้งนี้แล้วยังคงเป็นอะไรที่ต้องเก็บไว้พิจารณา และต้องรอดูข้อมูล – ข่าวสารเพิ่มเติมกันอีกทีหนึ่ง
ได้มีการเปิดเผยออกมาแล้วกับ พิมพ์เขียว ของ iPhone 14 Pro ที่ได้แสดงให้เห็นถึงตัวเครื่องที่มีขนาดหนาขึ้น และช่องแบบ Pill – Hole (22 มี.ค. 2565) ข่าว และข้อมูลของตัวเครื่องสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปจาก Apple นั้น ก็เริ่มมีการหลุด และเปิดเผยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนี้ก็เป็นในส่วนของภาพแบบ พิมพ์เขียว ของตัวเครื่อง iPhone 14 Pro ที่ได้แสดงให้เห็นถึงสัดส่วน และโครงสร้างของตัวเครื่องให้เราได้เห็นกัน
อ้างอิงจากภาพดังกล่าวที่มีการหลุดออกมาบน Weibo นั้น ได้แสดงให้เห็นว่า iPhone 14 Pro นั้น มีความสอดคล้องกับข่าว และภาพเรนเดอร์ก่อนหน้านี้ ที่แสดงให้เห็นว่า หน้าจอจะมีการใช้งานช่องแบบ Pill – Hole ที่จะแบ่งการใช้งานเป็น : Pill สำหรับเซนเซอร์ของ Face ID – Hole สำหรับตัวกล้องหน้า
ในส่วนต่อมานั้นก็เป็นทางด้านของความหนาของตัวเครื่องที่ดูเหมือนว่าในรุ่น Pro นั้น มีขนาดอยู่ที่ 7.85 มม.
โดยรวมแล้วนั้นดีไซน์ของตัวเครื่องไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากไปจาก iPhone 13 Series ที่ใช้งานกันอยู่ในเวลานี้ และที่สำคัญที่สุดนี้เป็นเพียงพิมพ์เขียวของรุ่น Pro Series ที่จะใช้งานช่องแบบ Pill – Hole โดยเฉพาะเท่านั้น ซึ่งเรายังไม่เห็นว่าช่องแบบบาก (Notch) ของตัวรุ่นมาตรฐาน และ Mini นั้น จะเป็นยังไงกันแน่ ก็ต้องมารอดูกันต่อไป
ลือ! Xiaomi 12 Ultra อาจจะมาภายในเดือนพฤษภาคมนี้
หลังจากที่ได้เปิดตัวกันแล้วกับรุ่นมาตรฐาน และรุ่นอัปเกรดของ Xiaomi 12 ก็ได้มีข่าวลือออกมาล่าสุดว่าตัวรุ่นท็อป – Ultra นั้น อาจจะมาภายในเดือนพฤษภาคมนี้ (23 มี.ค. 2565) แม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นถึงตัวรุ่น Ultra ของ Xiaomi 12 ไปพร้อม ๆ กับการวางขายทั่วโลกของรุ่นมาตรฐาน และรุ่นอัปเกรดที่ผ่านมา ก็ยังมีข่าวที่พูดถึงสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่บ้าง โดยล่าสุดนี้ก็มีการลือกันมาว่า เราอาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นนี้ภายในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565
อ้างอิงจากแหล่งข่าววงในแล้วนั้น สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะทำการประกาศเปิดตัวภายในช่วงเดือนพฤษภาคม ณ ประเทศจีน ก่อนที่จะทำการประกาศวางจำหน่ายทั่วโลกในช่วงหลัง แบบเดียวกับที่งรุ่นมาตรฐาน และรุ่นอัปเกรดได้ทำไปในช่วงที่ผ่านมา
และจากข่าวลือก่อนหน้านี้ มันจะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1+ SoC, หน้าจอ OLED QHD 120 Hz, แบตเตอรี่ขนาด 4,900 mAh ที่มาพร้อมกับระะบบชาร์จไฟไว 120W และชุดกล้องที่ใช้งานเซนเซอร์จาก Leica
Realme ทำการปล่อยจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ – GT 2 Pro ทั่วโลกอย่างเป็นทางการแล้ว โดยตัวเครื่องมีสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,990 บาท (23 มี.ค. 2565) Realme ได้ทำการประกาศถึงปล่อยจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ – GT 2 Pro แบบทั่วโลกอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งก็จะมีการวางขายภายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยจะมีสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,990 บาท และเปิดสั่งจองล่วงแล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 3 เม.ย. 2565 ทาง Shopee ก่อนที่จะวางขายทั่วไปภายในวันที่ 4 เม.ย. 2565
realme GT 2 Pro มาภายใต้สโลแกน “ยอดเยี่ยมกว่าที่ตาเห็น” ครั้งแรกของโลกกับหน้าจอ AMOLED เรียบขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี LTPO 2.0 ที่มีความละเอียดระดับ 2K WQHD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ผสานค่า Touch Sampling Rate ระดับสูงสุด 1000Hz พร้อมการแสดงผล 1.07 พันล้านสี บนการดีไซน์ฝาหลังพรีเมียมด้วย Texture คล้ายกระดาษ จากการใช้วัสดุแบบ Bio-Base polymer หรือโพลิเมอร์ชีวภาพที่ร่วมออกแบบกับ Naoto Fukasawa นักออกแบบชื่อดัง รวมถึงแพ็กเกจที่มาในคอนเซ็ปต์ Paper Tech Master Design ที่ช่วยลดการใช้พลาสติกให้น้อยลง
ด้านการประมวลผลมากับชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Snapdragon 8 Gen1 ระบบระบายความร้อน Stainless Steel Vapor Cooling ขนาดใหญ่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ทำงานร่วมกับ RAM ขนาด 12GB + เทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion ที่สามารถเพิ่ม RAM เสมือนจาก ROM ได้สูงสุด 7GB พร้อมกับ ROM ขนาด 256GB และแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง