ฮ่องกง ถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน – เมื่อวานนี้ สื่อฮ่องกงรายงาน นางแคร์รี่ หล่ำ ยอมถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกงให้จีนอย่างเป็นทางการ เมื่อเวลา 16.00 น นางแคร์รี่ หล่ำได้เข้าพบกับกับฝ่ายนิติบัญญัติเมืองปักกิ่ง ผู้แทนฮ่องกงในสภาประชาชนแห่งชาติ และที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ณ ทำเนียบรัฐบาล
ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. นางแคร์รี่ หลั่ม ถ่ายทอดสดรายงานการถอนร่างกฎหมายเจ้าปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ผ่านโทรทัศน์ในฮ่องกง
การถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้อง 5 ข้อของผู้ชุมนุมประท้วงฮ่องกง ท่าทีดังกล่าวของนางหล่ำ เกิดขึ้นหลังสำนักข่าวรอยเตอร์ เผยแพร่คลิปเสียงซึ่งอ้างว่าเป็นบทสนทนาของนางหล่ำ กล่าวว่า ตนได้ทำสิ่งผิดพลาด หายนะอย่างไม่น่าให้อภัยได้ การประท้วงของชาวฮ่องกงครั้งนี้นับเป็นการประท้วงต่อเนื่องยาวนานเข้าสัปดาห์ที่ 14 จุดเริ่มต้นการประท้วงของชาวฮ่องกง เพื่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่จีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ร่างดังกล่าวถูกระงับลงชั่วคราว แต่การชุมนุมยังคงดำเนินจนถึงปัจจุบัน
ประท้วงฮ่องกง – เว็บไซต์ hongkongfp รายงานคำแถลงการณ์ของนาง แคร์รี หล่ำ (Carrie Lam) ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงว่า เธอพร้อมลาออกหากทำได้ เธอเป็นสาเหตุของ “ ความเสียหายที่ไม่อาจลืมได้” จากการพยายามผลักดันกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ต้นเหตุของเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงซึ่งยืดเยื้อนานนับเดือน
“ในฐานะผู้บริหารระดับสูงที่ทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่นี้กับฮ่องกง เป็นสิ่งที่ไม่อาจยกโทษให้ได้” แคร์รี่ หล่ำกล่าว “ ถ้าฉันมีทางเลือก สิ่งแรกจะทำคือลาออก แสดงความขอโทษอย่างสุดซึ้ง ดังนั้นฉันขอร้องให้พวกคุณยกโทษให้”
เธอกล่าวว่าร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งจะอนุญาตให้โอนผู้ลี้ภัยเป็นรายกรณีไปยังประเทศจีนเป็นความคิดของเธอ: “ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลกลาง” เธอกล่าวแสดงความเสียใจกับการตัดสินใจของเธอ
นางแคร์รี่ หล่ำบอกว่าเธอไม่ได้สงสารตัวเอง แต่เสียใจที่เธอไม่สามารถออกไปข้างนอกในที่สาธารณะหรือไปร้านทำผมเพราะกลัวว่าจะเผชิญหน้ากับผู้ประท้วง เธอยอมรับว่าเธอมีห้องเล็ก ๆ เพื่อหารือเกียวกับข้อเรียกร้องของขบวนการประท้วง
“มันเป็นห้องทางการเมืองสำหรับหัวหน้าผู้บริหารซึ่งโชคไม่ดีที่ต้องรับใช้รัฐธรรมนูญสองฉบับนั่นคือรัฐบาลกลางของประชาชนและประชาชนของฮ่องกง ห้องการเมืองสำหรับการวางแผนนั้นเป็นไปอย่างจำกัดมาก ๆ ”
แม่รัสเซียเลือดเย็น ลูกไม่มีนมกิน จับฆ่ารัดคอ บอกต่อไปนี้หนูจะไม่หิวแล้ว
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าแม่ลูกอ่อนชาวรัสเซีย วัย 28 ปี ยูเลีย คาบิโรวา ถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรม หลังก่อเหตุฆ่ารัดคอ ‘ทิมูร์’ ลูกชายวัย 1 ขวบ 2 เดือน โดยแม่รายนี้แสร้งว่าลูกหาย และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ความแตก และออกมาสารภาพว่าทำไปเพราะสถานการณ์บีบบังคับ ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน จึงต้องฆ่าลูก ลูกจะได้ไม่ต้องร้องไห้หิวนมอีก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านอิสมายโลโว เขตเดียร์ตยูลินสกี ในพื้นที่สาธารณรัฐบัชคอร์โตสถาน ทางตะวันตกของประเทศรัสเซีย โดยยูเลียมีลูกสาวคนโตอายุ 5 ขวบอยู่แล้วก่อนจะมีลูกชายคนนี้ และเธอได้เลิกรากับสามีไปแล้ว และกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
โดยในวันที่ 29 ส.ค. ยูเลียได้แกล้งเข้าไปแจ้งความว่าลูกหายไปกลางดึก ไม่รู้ว่าไปไหน ตอนเดินไปดูที่เปลก็ไม่มีแล้ว ตำรวจจึงเร่งออกตามหา ติดป้ายประกาศ พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ชาวบ้านอีกรวมกว่า 100 คนช่วยกันตามหา อีกทั้งยังได้ประสานทีมอาสาสมัครและทีมนักประดาน้ำด้วย แต่หาเท่าไรก็ไม่มีวี่แวว
กระทั่งคืนวันที่ 31 ส.ค. ทุกคนก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อเจ้าหน้าที่พบร่างไร้ลมหายใจของเด็กน้อยถูกฝังอยู่ในหลุมขนาดเล็กในสวนหลังบ้านของยูเลียผู้เป็นแม่เอง และสาเหตุการเสียชีวิตก็มีเงื่อนงำ ตำรวจจึงส่งร่างเด็กไปชันสูตรที่สถานบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
ยูเลีย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ และระหว่างการสอบปากคำก็แสดงท่าทางพิรุธ พูดจาวกไปวนมา โดยเล่าว่าตอนแรกที่เห็นลูกอยู่ตรงนี้ ลูกยังมีชีวิตอยู่ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดว่าลูกอาจจะถูกต้นตำแยกัดจนเสียชีวิต หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียด ยูเลียก็ยอมรับสารภาพว่าโกหกเรื่องลูกหาย และแท้จริงแล้วเธอเป็นคนลงมือฆ่าลูกเอง โดยตอนลงมือ เธอบอกกับลูกว่า ‘ไม่เป็นไรนะลูก เดี๋ยวหนูก็จะไม่ต้องหิวอีกต่อไป และจะไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไปแล้ว’ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ลูกเธอร้องไห้หิวนมตลอดเวลา ให้กินแล้วก็ไม่หยุดร้องจนนมหมดเกลี้ยงตู้เย็นและไม่มีอาหารอย่างอื่นเหลือแล้ว เธอได้เอาเชือกมารัดคอลูกจนตาย ก่อนจะเอาผ้าห่มมาห่อศพเอาไว้ และขุดดินฝังศพลูกในสวนหลังบ้าน
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง