ผบ.เรือนจำพิเศษ ออกโรงชี้แจงกรณีผู้ต้องขัง ทะลุแก๊ส พยายาม ฆ่าตัวตาย พบทานยาเกินขนาด 1 ราย ขูดข้อมือ 2 ราย ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว จากกรณีที่นาย อานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเรียกร้องให้ทาง ราชทัณฑ์แถลงข้อเท็จจริง หลังจากที่มีผู้ต้องขังทางการเมืองจากกลุ่มทะลุแก๊ส ฆ่าตัวตาย พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า “ทนายไปเยี่ยมวันนี้ทราบ 2 เคส คือกรีดมือ และกินยาพาราประมาณ 60 เม็ด อยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หวังว่าหมอคงช่วยทัน”
ล่าสุด นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ได้แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุสมาชิกทะลุแก๊สฆ่าตัวตายนั้นเป็นเรื่องจริง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00-22.00 น. ทางพัศดีของเรือนจำรายงานว่ามีผู้ถูกคุมขังรายหนึ่งได้ทานยาเกินขนาด ตรวจสอบพบ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ทานพาราไปหลายเม็ด โดยเป็นทางพาราของที่ทางเรือนจำได้มีการแจกจ่ายไว้เมื่อมีใครเจ็บป่วย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้กินจำนวนมากนั้น นายเอ ระบุว่า ขอจากเพื่อนในเรือนจำที่เป็นกลุ่มทะลุแก๊สด้วยกัน ขอมาคนละเม็ดสองเม็ดและสะสมมาเรื่อยๆ และเหตุใดถึงกินยาพาราเกินขนาดนั้น นายเอ กล่าวว่ามีความเครียดเนื่องจากคิดถึงภรรยาและลูก เพราะภรรยากำลังตั้งครรภ์อยู่ ตนจึงได้แนะนำไปว่าการแก้ปัญหาโดยวิธีการนี้มันไม่ถูกต้องจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจตัวเองไว้ให้แข็งแรง
เบื้องต้นได้ส่งตัวหลังพูดคุย ต้องขังรายนี้ไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่อยู่ข้างๆ เพื่อให้แพทย์ดำเนินการรักษาไปตามระบบขั้นตอน ส่วนอาการล่าสุดของนายเอ ได้พูดคุยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าปกติดี และยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากแพทย์กังวลเรื่องการรักษาตับ เพราะจะต้องดูแลในระยะยาวและต้องดูผลภายหลังจากการทานยาเกินขนาดดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ สำหรับผู้ต้องขังอีกสองราย ที่ทนายอานนท์ได้ระบุว่า มีการกรีดมือนั้น ภายในวันเดียวกันนั้น ตรวจสอบพบเป็นผู้ต้องขังห้องเดียวกัน ทราบชื่อคือ นายบี (นามสมมุติ) และนายซี (นามสมมุติ) โดยทั้งสองได้ใช้เหมือนเป็นเศษโลหะเล็กๆขูดที่ข้อมือของตัวเอง แต่ไม่ถึงขั้นกรีดข้อมือ ทำให้เกิดเป็นแผลแบบมีเลือดซึม เบื้องต้นสั่งให้พยาบาลขึ้นไปดู และได้สอบถาม จึงรับทราบว่าพวกเขาทั้งคู่มีความเครียด เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว
นายนัสที เผยว่าได้พูดคุยและบอกว่า วิธีการดังกล่าวมันไม่ได้ผลเพราะจะต้องไปยื่นที่ศาลและชี้แจงให้ศาลเห็นตามขั้นตอน เพื่อให้ได้รับการประกันตัวชั่วคราว ทั้งนี้ ได้ให้นักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขังทั้ง 2 รายนี้และให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าไปดูแลด้วย รวมถึงจะมีการติดต่อญาติให้เข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขังทั้ง 2 รายด้วยเช่นกัน
นายนัสที ยังระบุว่า ลักษณะบาดแผลของทั้งคู่เป็นรอยบางๆ ไม่ได้เป็นรอยถึงขนาดกรีดและมีรอยประมาณสามรอย แพทย์จึงได้มีการทายาฆ่าเชื้อให้และพันแผลไว้ให้ ล่าสุดวันนี้ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย เนื่องจากครบกักโรค 10 วัน พอดี จึงได้มีการย้ายผู้ต้องขังทั้ง 2 รายนี้ รวมถึงผู้ต้องขังทะลุแก๊สรายอื่นๆ จากแดนสองไปอยู่แดนสี่ซึ่ง ก็จะมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักบำบัดเข้าไปพูดคุย จนทั้งหมดหายเครียดไปแล้ว และปลอดภัยดี
อย.เตือน ผลิตภัณฑ์ผสมกัญชา-กัญชง โฆษณาต้องขออนุญาต เกินจริงโทษหนักถึงจำคุก
กัญชาในอาหารและเครื่องดื่ม อย.เตือน โฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ผสมกัญชา-กัญชง ต้องขออนุญาต หากโฆษณาเกินจริง มีโทษหนักถึงจำคุก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตือนการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ กัญชา กัญชง ต้องขออนุญาตก่อน และต้องไม่แสดงสรรพคุณเกินจริง เป็นเท็จ หลอกลวง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากฝ่าฝืนมีโทษถึงจำคุก โดยแบ่งเป็น
สำหรับ การโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ และสรรพคุณของอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชากัญชง ต้องขออนุญาตจาก อย.ก่อน โดยต้องไม่สื่อให้เข้าใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตรบริโภคได้ และไม่แสดงให้เห็นถึงผลของกัญชา กัญชง ที่นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น หัวเราะได้แบบไม่รู้ตัว ช่วยให้เคลิบเคลิ้ม เป็นต้น พร้อมทั้งแสดงคำเตือนในสื่อโฆษณา เช่น “อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค” “เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน” หากพบการโฆษณาอันเป็นเท็จหรือหลอกลวง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ การโฆษณายาจากสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่มีส่วนประกอบของกัญชากัญชง ต้องขออนุญาตจาก อย. เช่นกัน และต้องไม่แสดงสรรพคุณอันเป็นเท็จ เกินจริง หรือทำให้เข้าใจผิด หากพบการโฆษณาที่ฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนของเครื่องสำอาง ไม่ต้องขออนุญาตโฆษณา แต่ต้องไม่แสดงสรรพคุณเป็นเท็จ เกินจริง หรือทำให้เข้าใจผิด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบผู้กระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน อย. โทร.1556
ส่วนประเด็นของบาดแผล ตอนนี้อยู่ระหว่างส่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปตรวจสอบกับภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อยืนยันเพิ่มเติมว่าบาดแผลของแตงโมเกิดขึ้น ก่อนหรือหลังเสียชีวิต เพราะมีผลต่อการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คาดอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ทราบผล
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง